พนัสนิคม เมืองเก่าที่มีอายุกว่า 1,500 ปี มีประวัติศาสตร์เก่าแก่ที่น่าสนใจ ในปัจจุบันได้รับการพัฒนาและฟื้นฟูจนเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในประเทศไทย
อำเภอพนัสนิคม อำเภอเล็กๆในจังหวัดชลบุรีที่หลายคนอาจจะไม่ให้ความสนใจนัก เรียกกันว่าเมื่อก่อนถ้าใครไม่มีธุระก็คงไม่แวะที่เมืองนี้อย่างแน่นอน แต่ตอนนี้ทุกอย่างได้เปลี่ยนไปแล้ว เพราะอำเภอ พนัสนิคม กลายเป็นแลนมาร์คที่นักเที่ยวอยากไปเยือนให้ได้
เริ่มกันที่ประวัติของที่นี่กันแบบสั้นๆก่อน พนัสนิคม กำเนิดเมืองขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น โดยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชาอนุญาตให้กลุ่มลาวอาสาปากน้ำมาสร้างภูมิลำเนาขึ้นในพื้นที่รกร้างระหว่างเมืองชลบุรีกับเมืองฉะเชิงเทราในปี 2371 และอยู่อาศัยสืบต่อเรื่อยมาจนถึงวันนี้สำหรับอาชีพหลักของคนพนัสนิคม คืออาชีพเกษตรกรรม ทำนาปลูกข้าว และเครื่องจักสานจากไม้ไผที่ทำรายได้หลักให้กับอำเภออีกด้วย
นอกจากนั้นตอนนี้ พนัสนิคม มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่น่าสนใจเกิดขึ้นใหม่อย่าง ตลาดน้ำ 3 วัง และยังเป็นอำเภอที่อยู่ไม่ไกลกับกรุงเทพมหานคร หากเดินทางโดยรถส่วนตัวก็ใช้เวลาเพียง 1.30 ชั่วโมง ระหว่างเดินทางก็นั่งเล่นเกมออนไลน์ที่ดีที่สุดในเอเชียบนมือถือไปด้วย ไม่นานก็ถึงที่หมายแล้ว สิ่งที่สำคัญอีกอย่างที่นักท่องเที่ยวห้ามพลาดเมื่อไปเยือนที่นี่คือการแวะชิมอาหารอร่อยหลายร้านเช่น ร้านเลิศรสก๋วยเตี๋ยวเป็ด ร้านอาหารดอกบัว และร้านยำรสชาติจัดจ้านอย่างร้านเจ๊แพร โคตรละยำเป็นต้น
สิ่งหนึ่งที่เป็นเรื่องน่าทึ่งสำหรับพนัสนิคมที่ไม่ได้มีดีแค่ที่ท่องเที่ยวและร้านอาหารอร่อยๆเท่านั้น โดยเฉพาะใครที่ต้องการย้ายออกจากเมืองใหญ่ๆ เพื่อหาที่อยู่อาศัยในเมืองที่น่าอยู่ สิ่งแวดล้อมและอากาศเป็นเลิศ พนัสนิคม น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีอีกแห่งหนึ่ง โดยในช่วงหลายปีหลังๆที่ผ่านมาก พนัสนิคมได้รับรางวัลมากมายทั้งมืองต้นแบบด้านสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนในระดับภูมิภาคอาเซียน รวมถึงได้รับการคัดเลือกจากองค์การอนามัยโลก (World Health Organization) ให้เป็น 1 ใน 1,000 เมืองระดับโลกที่ช่วยรณรงค์ด้านการพิทักษ์ชีวิตและสุขภาพของคนเมือง และได้รับรางวัลประกาศเกียรติคุณจากสถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา (LDI AWARDs) ให้เป็นเทศบาลเมืองที่มีค่าดัชนีความน่าอยู่สูงสุดเป็นอันดับ 1 ของประเทศ จากดัชนีที่ใช้ชี้วัด 5 มิติ ได้แก่ มิติเมืองปลอดภัย มิติเมืองสะอาด มิติเมืองคุณภาพชีวิต มิติเมืองธรรมาภิบาล และมิติเมืองวัฒนธรรม โดยทางเทศบาลเมืองพนัสนิคมให้ความสำคัญกับการสร้างเมืองให้น่าอยู่ และยึดหลักเศรษฐกิจแบบพอเพียง รวมถึงการทำงานของภาครัฐที่โปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ ตลอดจนการให้ความสำคัญในเรื่องของความปลอดภัยในชุมชน โดยมีการจัดตั้งศูนย์บริการงานหน่วยกู้ภัยและออกตรวจหน่วยพื้นที่เสี่ยง ดังนั้นชาวบ้านชาวพนัสจึงใช้ชีวิตได้อย่างอุ่นใจ และอีกอย่างที่ทางเทศบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขคือเรื่องการให้การดูแลรักษาสุขภาพโดยเฉพาะ ผู้สูงอายุที่มีจำนวนถึงร้อยละ 22 จากจำนวนประชากรทั้งหมด ที่สามารถเข้าตรวจสุขภาพประจำเดือนได้ที่โรงพยาบาลพนัสนิคม และสุดท้ายคือการพัฒนาสุขภาพของชาวพนัส โดยมีการปรับปรุงพื้นที่สาธารณะให้เป็นสถานที่ออกกำลังกายไม่ว่าจะเป็นสนามฟุตบอล สนามเปตอง และสนามบาสเก็ตบอล รวมถึงสระว่ายน้ำอีกด้วย