กรณี น.ส.ภัทรวรินทร์ นันจิตสัก อายุ 31 ปี บ้านเลขที่ 141/1 หมู่ 13 แขวงหนองเหียง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ได้พบกับ พ.ต.อ.อำนวย คำจอง ผกก.สภ.นิคมอุตสาหกรรมลำพูน โดยอ้างว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา ตนได้เข้าพบกับพนักงานสอบสวน สภ.นิคมอุตสาหกรรมลำพูน แจ้งว่า นายภาสกร ขุนทอง ซึ่งเป็นผู้ครอบครองรถ จยย.ยี่ห้อ คาวาซากิ สีดำ หมายเลขทะเบียน 6 กข 8850 กทม. ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นิคมอุตสาหกรรมลำพูน ตรวจยึดไว้ เพื่อตรวจสอบ ในห้วงเดือน ก.ค. 2562 จนถึงวันที่ 26 เมษายน 2564 โดยเมื่อวันที่ 26 เมษายน 64 น.ส.ภัทรวรินทร์ ได้มาติดต่อขอรถคืน แต่ไม่สามารถตามหารถของกลางได้ จึงเข้าพบกับ พ.ต.อ.อำนวย คำจอง ผกก.สภ.นิคมอุตสาหกรรมลำพูนขอให้ตรวจสอบข้อมูลการตรวจยึดรถ จยย.คันดังกล่าว ว่าถูกตรวจยึดที่ สภ.นิคมอุตสาหกรรมลำพูน หรือไม่ ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบรถ จยย.ดังกล่าว และยืนยันว่า นายภาสกร ขุนทอง นั้นเป็นผู้ครอบครองรถ และถูก ตำรวจ สภ.นิคม นั้นยึดไปแน่นอนซึ่งสามารถจำหน้าคนตรวจยึดได้ ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ข่าวความคืบหน้า เวลา 16.30 น. วันเดียวกัน ทางด้าน พ.ต.อ.อำนวย คำจอง ผกก.สภ.นิคมอุตสาหกรรม จ.ลำพูน ได้เรียก ร.ต.อ.นัฐพล สมเครือ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำหน้าที่ตรวจยึดรถของผู้เสียหายไปมาตกลงค่าเสียหาย โดยผู้เสียหายไม่ติดใจที่จะตามรถกลับคืน แต่ได้เรียกร้องขอเงินจำนวน 190000 บาท ซึ่งทาง ร.ต.อ.นัฐพล สมเครือ รับปากที่จะชดใช้ให้ เบื้องต้นได้มอบเงินจำนวน 10000 บาท ให้ไปก่อน ส่วนที่เหลืออีก 180000 บาท จะจ่ายให้ภายในวันที่ 31 พ.ค. 2564 ซึ่งสามารถตกลงกันด้วยดี และทางตำรวจยอมรับข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น และยินยอมชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นดังกล่าว.